ผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของเราทำให้โลกมีสุขภาพที่ดี

- การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
- การดําเนินการเกี่ยวกับสภาพอากาศ
- ผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
- ประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร
- สถานประกอบการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
- ข้อมูลสิ่งแวดล้อม
Samsung Electronics ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมในระดับสูงสุดนับตั้งแต่การเริ่มวางแผนผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการกำจัดผลิตภัณฑ์ในขั้นสุดท้าย Eco-design Process ของเราซึ่งเริ่มใช้ในปี 2004 ได้วิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นไปได้ของผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เรากำลังทำอย่างสุดความสามารถเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ของเรานั้นทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถใช้งานได้ นับตั้งแต่การประหยัดทรัพยากรและสร้างแหล่งทรัพยากรใหม่ ๆ ไปจนถึงการทำให้มั่นใจว่าจะสามารถรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดายเมื่อสิ้นสุดอายุการใช้งาน นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมผู้คนทั่วโลกถึงตระหนักดีว่าผลิตภัณฑ์ของเรานั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
KPI ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม


Samsung Electronics ทำการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัทตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้ระบบการประเมินของบริษัท เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับระบบการประเมินสำหรับสาธารณชน เราได้เปลี่ยนไปใช้เกณฑ์การรับรองของ Eco-Label ซึ่งเป็นการรับรองที่มอบให้กับผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมโดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมของประเทศเกาหลี, Electronic Product Environmental Assessment Tool (EPEAT) Certification ของสหรัฐอเมริกา และ Association of Home Appliance Manufacturers (AHAM) Certification ของสหรัฐอเมริกา
เพื่อประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากผลิตภัณฑ์ของเราตลอดอายุการใช้งาน เช่น การผลิต, การใช้งาน และการกําจัด Samsung Electronics ทําการประเมินวงจรชีวิต (LCA) และสะท้อนถึงผลลัพธ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในปี 2019 ได้มีการดำเนินการ LCA ในจอภาพขนาด 24 นิ้ว และผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าเชื่อถือได้ด้วยการได้รับการรับรอง UL Environmental Product Declaration (EPD) ในสหรัฐอเมริกา Samsung Electronics วิเคราะห์ผลกระทบของจอภาพที่มีต่อภาวะโลกร้อนในแต่ละระยะของวงจรชีวิต เช่น ก่อนการผลิต, การผลิต, การจัดจําหน่าย, การใช้งาน และการกําจัดในพื้นที่ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 12 แห่ง¹⁾
ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า 76% ของผลกระทบนั้นเกิดขึ้นในระหว่างขั้นตอน "การใช้งาน" ทั้งนี้เนื่องจากการผลิตพลังงานที่ใช้ในระหว่าง "การใช้งาน" ของจอภาพทําให้เกิดก๊าซเรือนกระจกที่มีนัยสําคัญ ในอนาคต เราจะสะท้อนผลลัพธ์ในขั้นตอนการพัฒนาเพื่อพยายามลดการใช้พลังงานและพลังงานสแตนด์บาย

สารที่มีความอ่อนไหวต่อสิ่งแวดล้อมในผลิตภัณฑ์ทั้งหมด
ได้รับการจัดการอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ปลอดภัยในการใช้
ภายใต้หลักการที่ “ไม่ผ่อนปรนต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม" Samsung Electronics จึงบริหารจัดการสารที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับสากลด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดยิ่งขึ้น เราได้กำหนด ‘มาตรฐานสำหรับการควบคุมสารต่าง ๆ ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์’ ขึ้นมา และได้นำไปบังคับใช้ในการตรวจสอบขั้นต้นและการติดตามผลในชิ้นส่วนและวัตถุดิบทั้งหมดที่ใช้ ทั้งนี้ เรายังได้เต็มใจสร้างสูตรแผนการลดปริมาณที่ไม่ได้จำกัดไว้เฉพาะสารต้องห้ามต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสารต่าง ๆ ที่มีโอกาสเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมด้วย เช่น พอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC), สารหน่วงการติดไฟที่เป็นสารประกอบโบรมีน (BFR), เบริลเลียม และแอนทิโมนี ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำให้เราสามารถลดการใช้วัสดุที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมในผลิตภัณฑ์ได้อย่างต่อเนื่อง
Samsung Electronics ได้จัดการสารที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมแบบเชิงรุกนับตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งเริ่มดำเนินการก่อนที่จะมีข้อจำกัดของแนวทางสำหรับสารอันตราย (RoHS) ของสหภาพยุโรปถึง 2 ปี แรงผลักดันที่ทำให้บริษัทตั้งระบบการจัดการที่เข้มงวดภายในก่อนที่ทางสหภาพยุโรปจะออกแนวทางมานั้น ก็คือหลักปรัชญาการบริหารของ Samsung Electronics ที่ให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมนั่นเอง ซึ่งในปี 2005 เราได้สร้างห้องปฏิบัติการสำหรับวิเคราะห์สารที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสารประกอบอินทรีย์ที่ไม่เสถียร และเรายังได้ตั้งระบบเฝ้าดูตัวเองขึ้นมาอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ห้องปฏิบัติการการวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อมของเรายังได้รับการรับรองจาก Korea Laboratory Accreditation Scheme (KOLAS) ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับการวิเคราะห์ข้อมูลและความสามารถด้านการทดลองของเราในปี 2019



เรากําลังใช้ระบบการรับรอง Eco-Partner เพื่อจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างใกล้ชิด
Samsung Electronics ทําการประเมิน Eco-Partner กับซัพพลายเออร์ผลิตภัณฑ์และชิ้นส่วนทั้งหมดเพื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์และชิ้นส่วนต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด
เราให้การรับรองโดยการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสำหรับการควบคุมสารต่าง ๆ ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์และระบบการจัดการคุณภาพด้านสิ่งแวดล้อมของซัพพลายเออร์ ซัพพลายเออร์ส่งรายงานด้านสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ที่มีข้อมูลสารอันตรายพร้อมด้วยข้อมูลจากบริษัทวัตถุดิบ จากนั้น Samsung Electronics จะทําการประเมินอย่างละเอียดโดยการเยี่ยมชมสถานที่ผลิตของซัพพลายเออร์เพื่อตรวจสอบเอกสารที่ส่ง เพื่อรักษาใบรับรอง Eco-Partner ซัพพลายเออร์ต้องได้รับการตรวจสอบทุกสองปี และผู้ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบจะไม่รวมอยู่ในห่วงโซ่อุปทาน ด้วยวิธีการเหล่านี้ เรามุ่งมั่นที่จะรวมซัพพลายเออร์ของเราเข้าไว้ในโครงการการจัดการสีเขียว (Green Management) ของเรา แทนที่จะทําการประเมินเพียงครั้งเดียว เราให้การบริหารจัดการและการประเมินอย่างต่อเนื่องเพื่อจะได้แน่ใจว่าการจัดการห่วงโซ่อุปทานนั้นมีความยั่งยืน

Samsung Electronics เดินหน้าวิจัยวิธีการประหยัดพลังงาน
Samsung Electronics พยายามอย่างไม่ลดละเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงานสูงที่ใช้พลังงานน้อยลงแต่ให้ประสิทธิภาพมากขึ้น ถ้าผลิตภัณฑ์สามารถใช้พลังงานลดลงได้อย่างดีเยี่ยมยิ่งขึ้น ลูกค้าก็จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ ส่งผลให้มีการใช้พลังงานน้อยลงเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า ทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกนั้นลดน้อยลงไปด้วย ผลลัพธ์จากการใช้เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมและประหยัดพลังงานในผลิตภัณฑ์ของเราในปี 2019 ทำให้เราสามารถลดการใช้พลังงานในผลิตภัณฑ์ของเราลงได้ถึง 42% เมื่อเทียบกับในปี 2008 สิ่งนี้หมายความว่าเราสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิมแต่ใช้พลังงานน้อยลงถึงครึ่งหนึ่ง แต่งานของเราไม่ได้หยุดอยู่แค่ตรงนั้น เรายังคงเดินหน้าการวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีอันปฏิวัติวงการที่จะลดการใช้พลังงานลงยิ่งกว่าเดิม

ทั่วโลกได้รับรู้ถึงความพยายามด้านสิ่งแวดล้อมของ Samsung Electronics
หลายประเทศ เช่น สหรัฐ ยุโรป จีน และบราซิลได้ยกย่องผลิตภัณฑ์ของ Samsung Electronics ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้ให้การรับรองด้านสิ่งแวดล้อม เช่น เครื่องหมายด้านสิ่งแวดล้อม และตรารับรองการปล่อยคาร์บอนต่าง ๆ ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นได้จากความอุตสาหะของเราในการศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรกด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า แต่งานของเราไม่ได้ยุติลงเพียงเท่านี้ Samsung Electronics จะยังคงเดินหน้าต่อไปตามวิสัยทัศน์ ‘PlanetFirst’ ที่ให้ความสำคัญต่อโลกและสิ่งแวดล้อม เราจะมุ่งมั่นอย่างเต็มที่เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับชีวิตของผู้คนและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม

