วิธีการแก้ไขถ้าแบตเตอรี่ของโทรศัพท์เครื่องใหม่หมดเร็ว

คุณอาจสังเกตว่าแบตเตอรี่ในโทรศัพท์เครื่องใหม่หมดเร็วกว่าอุปกรณ์เครื่องเก่า แม้ว่าคุณจะใช้งานในลักษณะเดียวกัน หลังจากที่เพิ่งซื้อมา

ในช่วงสองสามวันแรกภายหลังการซื้อ ผู้ใช้มักจะเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นจำนวนมาก และกำหนดค่าฟีเจอร์ต่างๆ สำหรับการตั้งค่าอุปกรณ์เบื้องต้น และความถี่ของการทำงานส่วนพื้นหลังอาจเพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้ ดังนั้นคุณอาจรู้สึกว่าเวลาใช้งานแบตเตอรี่สั้นลง เมื่อเทียบกับตอนที่คุณใช้อุปกรณ์เครื่องเก่า

ขณะที่เชื่อมต่อเครือข่าย 5G โทรศัพท์ของคุณอาจใช้แบตเตอรี่มากกว่าปกติ บริการ 5G ในปัจจุบันเป็นไปตามมาตรฐาน Non-Standalone (NSA)* ซึ่งใช้ 4G (LTE) และ 5G ร่วมกัน ด้วยเหตุนี้ วงจร 5G และ 4G (LTE) จึงถูกใช้งานพร้อมกัน เพื่อการประมวลผลความเร็วสูงสำหรับข้อมูลจำนวนมาก

เนื่องจากโทรศัพท์ของคุณเชื่อมต่อหลายเครือข่ายในเวลาเดียวกัน ดังนั้นแบตเตอรี่จึงอาจหมดเร็วกว่าปกติ และโทรศัพท์ของคุณอาจร้อนกว่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับการเชื่อมต่อเฉพาะ 3G หรือ LTE ในการแก้ไขปัญหานี้ คุณอาจใช้ฟีเจอร์ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของโทรศัพท์

* NSA(Non-Standalone): การเปิดตัวครั้งแรกของเครือข่าย 5G และอุปกรณ์จะอยู่ภายใต้การดำเนินการแบบ Non-Standalone (NSA) ซึ่งหมายความว่าเครือข่าย 5G จะได้รับการสนับสนุนโดยโครงสร้างพื้นฐาน 4G ที่มีอยู่ ดังนั้นอุปกรณ์ที่รองรับ 5G จะเชื่อมต่อกับคลื่นความถี่ 5G สำหรับการรับส่งข้อมูล แต่จะยังคงใช้ 4G สำหรับฟีเจอร์ที่ไม่ใช่ข้อมูล เช่น การเชื่อมต่อกับสถานีฐานและเซิร์ฟเวอร์

ถ้าคุณต้องการยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ หรือถ้าคุณรู้สึกว่าแบตเตอรี่หมดเร็ว คุณสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของโทรศัพท์ จัดการการใช้พลังงานของแอพ และปรับปรุงประสิทธิภาพของแต่ละแอพ คุณสามารถลดการใช้แบตเตอรี่ได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้