ปัจจุบัน หมดยุคของการที่พนักงานจะต้องพกอุปกรณ์ 2 เครื่องเพื่อแยกชีวิตส่วนตัวกับชีวิตการทำงานได้ออกจากกันแล้ว โดยอุปกรณ์ Android ที่พัฒนาโดย Google จะเข้ามาช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดโปรไฟล์การทำงานของตนเองได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของพวกเขา มาปะปนกับข้อมูลการทำงาน
การเปิดตัวของระบบปฏิบัติการ Android 13 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดนั้น ได้รับการอัปเดตและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ใช้งานให้กับผู้ใช้สมาร์ทโฟนสำหรับทำงาน (สร้างโปรไฟล์ที่ 2) อย่างแรกเลย ผู้ใช้งานจะสามารถกำหนดได้ว่าแอปไหนบ้างที่จะสามารถเปิดใช้งานได้ แอปไหนสำหรับการทำงาน แอปไหนสำหรับการใช้งานในชีวิตส่วนตัว พูดง่าย ๆ คือ คอนเทนต์ในแอป Facebook, YouTube หรือ Google Chrome นั้น จะอ้างอิงจากข้อมูลของโปรไฟล์ใดโปรไฟล์หนึ่งเท่านั้น ไม่นำมารวมกัน เช่นเดียวกัน ผู้ใช้งานสามารถสลับการเข้าถึงแอปรูปภาพต่าง ๆ ได้จากโปรไฟล์ส่วนตัวและการทำงาน ทำให้สามารถแยกแยะได้ว่ารูปไหนสำหรับการทำงาน รูปไหนสำหรับชีวิตส่วนตัว ไม่แสดงผลปะปนกัน⁴ โดยการแยกความแตกต่างระหว่างข้อมูลและแอปของการใช้งานส่วนตัวและในที่ทำงานนั้น จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินไปกับการมีสมดุลชีวิตและการทำงาน (Work-Life Balance) ที่ดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับช่วยให้สุขภาวะด้านดิจิทัลนั้นดีขึ้น ช่วยให้พนักงานอยากทำงานอยู่กับบริษัทฯ ได้นานกว่าเดิม เพราะพนักงานจะรู้สึกว่าผู้ว่าจ้าง ได้ให้และมองพวกเขาว่ามีคุณค่าและประโยชน์กับตัวธุรกิจนั่นเอง
เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ทาง Samsung และ Google ได้ร่วมกันสร้างและพัฒนา One UI (ระบบปฏิบัติการที่พัฒนาบนพื้นฐานของ Android) ซึ่งจะมีอินเทอร์เฟซที่สามารถกำหนดอะไรหลาย ๆ อย่างเองได้ รวมถึงมีความเรียบง่ายและดูสบายตาสำหรับสมาร์ทโฟน Galaxy ซึ่ง One UI นั้น มีฟีเจอร์มากมายที่จะคอยช่วยเพิ่มความสามารถในก้านการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับพนักงานที่ต้องไปไหนมาไหนอยู่ตลอดเวลา
การอัปเดตล่าสุดของ One UI 4.0 ได้มีฟีเจอร์ 2 อย่างที่ล้ำหน้ากว่าเดิม ที่จะเข้ามาช่วยเพื่อความสามารถในการทำงาน โดยฟีเจอร์แรกคือวิดเจ็ตปฏิทิน หรือ Calendar ที่ได้รับการอัปเดตใหม่ให้มีลุคเรียบง่ายและมีความเป็นมืออาชีพมากกว่าเดิม ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดูภาพรวมของการประชุมนัดหมายและงานแต่ละเดือน หรือแต่ละวัน ได้งายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งวิดเจ็ตไว้ตรงหน้าจอหลักหรือหน้าจอล็อคสกรีนของเครื่องได้ เพื่อที่จะได้มาพลาดการเข้าร่วมประชุมนัดหมายใด ๆ อีกต่อไป
ต่อมาคือฟีเจอร์ Multi-window และ Split View ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเปิด 2 แอปไปได้พร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นมุมมองแบบบน - ล่าง หรือมุมมองแบบป๊อบอัพก็ตาม โดยการอัปเดตนี้ ผู้ใช้งาน Android จะสามารถใช้ทั้งสองฟีเจอร์สำหรับทุกแอปได้ รองรับทุกแอป หลังจากก่อนหน้านี้มีเพียงไม่กี่แอปเท่านั้นที่รองรับ
ด้วยเหตุนี้เอง ระบบปฏิบัติการ Android จึงเสริสร้างความสามารถในด้านการทำงานต่าง ๆ โดยรวมได้เป็นอย่างดี เข้าถึงโปรไฟล์ต่าง ๆ และสามารถตั้งค่าปรับแต่งระบบ One UI ที่พัฒนาบนพื้นฐานของ Android ได้