ปัจจุบัน บุคลากรทางการแพทย์ ต่างต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ท้าทายในทุก ๆ วัน ทำให้การมีเครื่องมือเทคโนโลยีที่ไว้ใจได้และตอบโจทย์การใช้งาน เป็นเรื่องที่จำเป็น ด้วยเหตุนี้เอง แท็บเล็ตสุดแกร่งอย่าง Samsung Galaxy Tab Active4 Pro ถึงเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญ ซึ่งจะเข้ามาช่วยให้พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างมั่นใจ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างรวดเร็วและเต็มที่

ในทุกวันนี้ ระบบสาธารณสุขกับเทคโนโลยีนั้น มีความเกี่ยวข้องซึ่งกันและกันเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นเรื่องปกติที่บุคลการทางการแพทย์ จำเป็นต้องใช้โซลูชั่นดิจิทัล เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานและการดูแลคนไข้ในแต่ละวันทั่วทวีปเอเชีย โดยเทคโนโลยีดิจิทัลเหล่านี้ ได้เข้ามาพลิกโฉมวิธีการดูแลผู้ป่วยของโรงพยาบาลไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้ในปัจจุบัน เราถึงได้เห็นโรงพยาบาลใหญ่ ๆ หันมาใช้อุปกรณ์เทคโนโลยี สร้างห้องผู้ป่วยอัจฉริยะ ที่มีแท็บเล็ตติดเอาไว้บนหัวเตียง เพื่อดูแลคนไข้และผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่¹.

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ จำเป็นต้องมีโซลูชั่นดิจิทัลที่ทนทาน และสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน อีกทั้งยังเป็นอุปกรณ์ที่ไว้ใจได้ในสภาพแวดล้อมที่เร่งรีบ เพื่อให้บริการคนไข้ได้ตามความต้องการ และช่วยให้การทำงานในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นกะที่ยาวนานหรือการทำงานในบริบทอื่น ๆ สามารถผ่านไปไดอย่างราบรื่น ซึ่ง Galaxy Tab Active4 Pro และแท็บเล็ตสุดแกร่งรุ่นอื่น ๆ สามารถเข้ามาตอบโจทย์ทุกอย่างได้พอดิบพอดี แม้ว่าจะมีขนาดน้ำหนักที่เบา แต่ก็มีความทนทานมาก ๆ ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลสามารถแก้ไขปัญหาสำคัญ ๆ ได้อย่างไม่สะดุด และบริการดูแลผู้ป่วยได้ดีกว่าเดิม 

เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทำงานและความพึงพอใจของผู้ป่วยในการให้บริการ โรงพยาลาลต่าง ๆ จึงหันมาใช้อุปกรณ์อัจฉริยะสำหรับเอาไว้ใช้ในห้องคนไข้มากยิ่งขึ้น โดยห้องผู้ป่วยอัจฉริยะจะมีประโยชน์มาก ๆ ในอนาคต ทั้งต่อตัวคนไข้ บุคลากรทางการแพทย์ ผู้มาเยี่ยมไข้ และพนักงานต่าง ๆ เนื่องจากห้องเหล่านี้มีความยืดหยุ่น และทำให้พยาบาล หมอ และแพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลและนำเสนอข้อมูลปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยแต่ละรายได้อย่างรวดเร็วและง่ายยิ่งขึ้น 

องค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งของห้องผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลอย่างสม่ำเสมอก็คือแท็บเล็ตข้างเตียง ซึ่งการมีแท็บเล็ตที่มีความทนทานอยู่ในหอผู้ป่วย หรือห้องไอซียู (ICU) นั้น ไม่ได้จะมีแค่การเสริมความดูแลให้กับคนไข้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์มีเวลาว่างมากยิ่งขึ้น เพื่อไปปฏิบัติงานที่จำเป็นอื่น ๆ ต่อ โดยแท็บเล็ตดังกล่าวจะเข้ามาช่วยให้ห้องผู้ป่วย พยาบาล แพทย์ และบุคลากรคนอื่น ๆ สามารถตรวจดูบันทึกข้อมูลของผู้ป่วย ใบสั่งยา และข้อมูลอื่น ๆ อีกมายได้ จากอุปกรณ์นี้โดยตรง ไม่ต้องไปค้นหาจากแฟ้มเอกสารให้ยุ่งยาก จึงทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีเวลาดูแลผู้ป่วยมากขึ้น แถมยังช่วยให้บันทึกข้อมูลของผู้ป่วยให้มีความแม่นยำมากขึ้นอีกด้วย 

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ป่วยยังสามารถใช้แท็บเล็ตที่วางไว้อยู่ข้างเตียง เพื่อสื่อสารกับบุคลากรทางการแพทย์ได้ ผ่านการคุยโทรศัพท์ หรือส่งข้อความสำหรับเรื่องที่ไม่เร่งด่วน ซึ่งถือเป็นการยกระดับการสื่อสารระหว่างผู้ป่วยและบุคลาการทางการแพทย์ โดยการที่สามารถสื่อสารจากระยะไกลได้ จะช่วยให้พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยในเคสที่ไม่ฉุกเฉินมากนักแบบเรียลไทม์ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ช่วยประหยัดเวลาและช่วยลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ได้ เป็นการทำให้ทุกฝ่ายอุ่นใจได้ว่า ไม่ว่าโรงพยาบาลจะทำงานหนัก หรือขาดแคลนเจ้าหน้าที่ พวกเขาก็สามารถปฏิบัติงานได้อย่างไม่มีสะดุด เพราะมีอุปกรณ์อัจฉริยะอย่าง Samsung Galaxy Tab Active4 Pro เข้ามาทุ่นแรงอีกที

นอกจากนี้ แท็บเล็ตอย่าง Galaxy Tab Active4 Pro ยังช่วยให้ผู้ป่วยสามารถดูผลตรวจจากห้องปฏิบัติการของพวกเขาได้ หาข้อมูลต่าง ๆ เพลิดเพลินไปความบันเทิง และสิ่งอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งถือเป็นการช่วยยกระดับการดูแลผู้ป่วยและความพึงพอใจโดยรวม 

ด้วยหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่และ ปากกา S Pen ที่มีมาให้ Galaxy Tab Active4 Pro จึงทำให้ผู้ป่วยกับบุคลากรทางการแพทย์มีปฏิสัมพันธ์กันได้อย่างไร้สะดุด Galaxy Tab Active4 Pro ที่มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 10.1 นิ้วช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์กับผู้ป่วยสามารถดูบันทึกข้อมูลทางการแพทย์และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยให้ผู้บริการทางการแพทย์สามารถตัดสินใจได้ในทันทีขณะที่ปรึกษากับผู้ป่วยอยู่

ยิ่งไปกว่านั้น การมีปากกา S Pen ยังช่วยมอบประสบการณ์การใช้งานที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้มากยิ่งขึ้นด้วย เนื่องจากแพทย์จะสามารถให้คำปรึกษา (ด้วยการวาดรูปหรือขีดเขียน) ให้กับผู้ป่วยได้ง่ายและชัดเจนขึ้นกว่าเดิม ซึ่งแตกต่างจากการให้บริการแบบทั่วไป ที่บุคลากรทางการแพทย์จะใช้เวลานั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ใหญ่ ๆ พร้อมพิมพ์ข้อมูลไปด้วยขณะที่ถามคำถามจากผู้ป่วย 

โดยการใช้แท็บเล็ตสุดแกร่งนี้ในโรงพยาบาล ทำให้มีประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ผู้ป่วยสามารถดูข้อมูลได้แบบง่าย ๆ ได้บนแท็บเล็ตที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ ได้รับข้อมูลจากแพทย์ได้อย่างครบถ้วน พร้อมทั้งได้รับการดูแลที่มากกว่าเดิม 

ในปัจจุบันรถเข็นคอมพิวเตอร์ (Computers-On-Wheels) หรือที่เรียกสั้น ๆ กันว่า COW นั้นถูกใช้เพื่อบันทึกข้อมูลสำคัญของผู้ป่วย อย่างเช่น ความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ อุณหภูมิ และอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม COW นั้นมีขนาดเทอะทะและจำเป็นต้องเข็นไปยังห้องตรวจและใช้พื้นที่ในการเก็บรักษาเมื่อไม่ได้ใช้งาน

โดย Galaxy Tab Active4 Pro จะเข้ามาช่วยให้ผู้บริการทางการแพทย์ คนไข้ หรือผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี ซึ่งทางบุคลากรทางการแพทย์จะใช้อุปกรณ์ชนิดนี้บันทึกข้อมูลผู้ป่วยในหอผู้ป่วยหรือ Ward ได้ โซลูชั่นดิจิทัลเหล่านี้มีน้ำหนักที่เบากว่าคอมพิวเตอร์มาก ๆ อีกทั้งยังสามารถพกพาติดตัวไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก และมาพร้อมกับแพลตฟอร์มที่มีประโยชน์ต่าง ๆ อย่าง Samsung DeX และ Samsung Knox อีกด้วย 

Samsung DeX ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถเปลี่ยนแท็บเล็ตของพวกเขาให้กลายเป็นเวิร์กสเตชันที่พกพาไปไหนมาไหนได้ทั่วทั้งโรงพยาบาล แพลตฟอร์ม Samsung DeX ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สัมผัสประสบการณ์การใช้งานแบบ PC ได้ ส่วนความคล่องตัวและความทนทานของ Galaxy Tab Active4 Pro ก็ช่วยให้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ท่านอื่น ๆ สามารถเชื่อมต่อเข้ากับมอนิเตอร์ที่รองรับได้อย่างง่ายดาย เพื่อทำรายงานให้เสร็จสิ้นหลังจากที่ออกตรวจแล้ว

Samsung Knox นำเสนอระบบการป้องกันในตัวต่อภัยร้ายทั้งภายในและภายนอก ซึ่งหมายความว่าข้อมูลอ่อนไหวต่าง ๆ อย่างบันทึกข้อมูลของผู้ป่วย ใบสั่งยา หรือผลตรวจจากห้องปฏิบัติการนั้นจะได้รับการรักษาความปลอดภัยด้านข้อมูลอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ Samsung Knox Enterprise Edition ยังนำเสนอชุดโซลูชันการรักษาความปลอดภัยและการบริหารจัดการอุปกรณ์ที่ช่วยให้บรรดาผู้จัดการฝ่ายไอทีสามารถติดตามตำแหน่งของอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย หากหาอุปกรณ์เหล่านั้นไม่เจอหรือว่าถูกขโมยไป และยังสามารถล็อกอุปกรณ์หรือรีเซตได้จากระยะไกลเพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต 

Galaxy Tab Active4 Pro ที่สร้างขึ้นมาสำหรับกะการทำงานในโรงพยาบาลที่ยาวนานและทรหดนั้นได้ผ่านการทดสอบต่าง ๆ ถึง 22 อย่าง2 เพื่อให้ได้รับการรับรองมาตรฐานทางทหาร MIL-STD-810H3 ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าแท็บเล็ตสามารถทนต่ออุณหภูมิสุดขั้ว, การกระแทก และความชื้นได้ มาตรฐานนี้ช่วยทำให้มั่นใจได้ว่าถ้าหากเกิดทำแท็บเล็ตตกหล่นขึ้นมา สิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขต้องทำก็คือแค่หยิบแท็บเล็ตขึ้นมาปัดทำความสะอาดแล้วก็ใช้งานต่อได้อย่างไม่มีอะไรเสียหายและไม่มีปัญหาใด ๆ ต่อการใช้งาน

นอกจากนี้ มาตรฐาน IP684 สำหรับทั้งแท็บเล็ตและ S Pen แสดงว่าอุปกรณ์ทั้งสองนั้นสามารถทนฝุ่นและน้ำได้ ทำให้ผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขสามารถอุ่นใจได้ว่าสิ่งสกปรกกับน้ำเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้นจะไม่มีผลอะไรต่อการทำงานของอุปกรณ์ 

การสวมถุงมืออาจเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงต่อการใช้โทรศัพท์หรือแท็บเล็ตในโรงพยาบาลและสถานที่ทำงานอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ใน Galaxy Tab Active4 Pro ทาง Samsung แก้ปัญหานี้ด้วยการพัฒนาความไวต่อการสัมผัสให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขวางใจได้ว่าพวกเขาสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องถอดถุงมือเสียก่อน⁵.

เมื่อเปิดใช้งาน Glove Mode ความไวต่อการสัมผัสจะสามารถปรับได้เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขที่สวมถุงมือนั้นสามารถใช้อุปกรณ์ต่อได้โดยไม่ต้องถอดถุงมือเสียก่อน ซึ่งช่วยให้ประหยัดเวลาและอุ่นใจได้ว่าการทำงานนั้นจะไม่ติดขัด

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความเสี่ยงเรื่องเชื้อโรคและไวรัสที่มีในโรงพยาบาล ผู้ใช้จะสามารถทำการฆ่าเชื้อ Galaxy Tab Active4 Pro ได้6 ทั้งก่อนและหลังการใช้งานโดยไม่ต้องเป็นกังวลว่าอุปกรณ์นั้นจะเสียหาย ซึ่งช่วยป้องกันการกระจายตัวของโรคและรักษาสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานกับผู้ป่วยในโรงพยาบาล 

สำหรับผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานอยู่ในรถฉุกเฉินหรือพาหนะอื่น ๆ นั้น การหันมาใช้ Galaxy Tab Active4 Pro คือการตัดสินใจอันชาญฉลาด ด้วยอุปกรณ์เสริมมากมายซึ่งรวมไปถึงแท่นยึดและคีออสก์แบบต่าง ๆ ทำให้ Galaxy Tab Active4 Pro จะพร้อมสำหรับการติดตั้งภายในพาหนะเสมอเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถเข้าถึงข้อมูลเส้นทางได้อย่างง่ายดายเมื่อตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ หรือส่งตัวผู้ป่วยไปโรงพยาบาล

ยิ่งไปกว่านั้น ฟีเจอร์อย่างโหมดไม่ใช้แบตเตอรี่ (No Battery Mode)7 ก็ช่วยให้อุปกรณ์สามารถเสียบใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานได้โดยตรง ซึ่งหมายความว่าอายุแบตเตอรี่จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการใช้งานในสถานการณ์ฉุกเฉินอีกต่อไป โหมดไม่ใช้แบตเตอรี่ (No Battery Mode) ไม่ได้แค่ช่วยให้ Galaxy Tab Active4 Pro สามารถใช้ในพาหนะได้อย่างไม่สะดุดเท่านั้น แต่โหมดดังกล่าวยังช่วยปกป้องแบตเตอรี่จากผลเสียอันเนื่องมาจากการชาร์จแบตเตอรี่มากเกินไป หรือการสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ 

อุปกรณ์ดิจิทัลนั้นคือสิ่งที่พลิกโฉมการปฏิบัติงานของโรงพยาบาล การใช้โซลูชันดิจิทัลอัจฉริยะที่ได้รับการเสริมพลังด้วยเทคโนโลยีแท็บเล็ตอันทรหดนั้นช่วยให้โรงพยาบาลหลายแห่งสามารถให้บริการที่เน้นผู้ป่วยเป็นหลัก ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์มีเวลามากขึ้น และมอบสภาพแวดล้อมการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่จะก่อให้เกิดการรักษาพยาบาลที่ราบรื่นและต่อเนื่องซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับทั้งผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขและผู้ป่วย

ไปดูว่า Samsung สามารถช่วยสร้างโรงพยาบาลอัจฉริยะโฉมใหม่ให้คุณได้อย่างไร here.