Samsung Find

ค้นหาสิ่งสำคัญได้ ไม่ว่าจะเป็น Galaxy, ผู้คน และช่วงเวลาต่าง ๆ ก็ตาม


ทำอุปกรณ์ Galaxy หายรึเปล่า Samsung Find จะช่วยค้นหาตำแหน่งของอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นของคุณหรือคนในครอบครัวก็ตาม ติด SmartTag เข้ากับของมีค่า สัตว์เลี้ยง หรือกระเป๋าเป้สะพายหลังของบุตรหลานเพื่อติดตามตำแหน่งของพวกเขา นอกจากนี้ คุณยังสามารถแชร์สถานที่เพื่อเชื่อมต่อกับคนที่คุณรักได้เสมอ

ฉากสามฉากแสดงให้เห็นถึงการใช้ Samsung Find มือคู่หนึ่งถือ Galaxy Tab ที่แสดงให้เห็นถึงตำแหน่งของเด็กในแผนที่ ผู้หญิงคนหนึ่งใช้ Galaxy Book แสดงผลตำแหน่งของอุปกรณ์เคลื่อนที่ในแผนที่ มืออีกคู่หนึ่งถือสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy ที่แสดงให้เห็นถึงตำแหน่งของ SmartTag ของจักรยานในแผนที่ โดยมีจักรยานอยู่ในฉากหลัง ฉากสามฉากแสดงให้เห็นถึงการใช้ Samsung Find มือคู่หนึ่งถือ Galaxy Tab ที่แสดงให้เห็นถึงตำแหน่งของเด็กในแผนที่ ผู้หญิงคนหนึ่งใช้ Galaxy Book แสดงผลตำแหน่งของอุปกรณ์เคลื่อนที่ในแผนที่ มืออีกคู่หนึ่งถือสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy ที่แสดงให้เห็นถึงตำแหน่งของ SmartTag ของจักรยานในแผนที่ โดยมีจักรยานอยู่ในฉากหลัง

ต้องทำอย่างไรถ้าฉันทำอุปกรณ์หาย

ค้นหาตำแหน่งหรือล็อกเครื่องอุปกรณ์ หรือลบข้อมูลของคุณได้ด้วย Samsung Find

ค้นหาตำแหน่งอุปกรณ์ของฉัน

ค้นหาอุปกรณ์ Galaxy ที่ลงทะเบียนทั้งหมดของคุณได้อย่างรวดเร็วในแผนที่ คุณยังสามารถค้นหาอุปกรณ์ Galaxy ของคุณได้ผ่านแอป Samsung Find ของสมาชิกในครอบครัว หากคุณได้แชร์ตำแหน่งของอุปกรณ์นั้นไว้ก่อนแล้ว แม้ว่าอุปกรณ์ของคุณจะปิดเครื่องไปแล้ว แต่เมื่อเปิดใช้งาน 'ส่งตำแหน่งล่าสุด' ที่อยู่ล่าสุดที่ทราบของอุปกรณ์ก็จะถูกบันทึกไว้ในเซิร์ฟเวอร์ก่อนที่จะปิดเครื่อง1,2

ล็อกเครื่อง

หากคุณไม่พบอุปกรณ์ของคุณ แต่คิดว่าอุปกรณ์อาจอยู่ใกล้ ๆ คุณสามารถเล่นเสียงที่ความดังระดับสูงสุดเพื่อให้คนที่อยู่ใกล้ ๆ ได้ยิน สำหรับอุปกรณ์ที่ไม่มีลำโพง อุปกรณ์อาจสั่น หรือกะพริบไฟในกรณีของ S Pen

ตั้งค่าโหมดสูญหาย

ล็อกหน้าจอของคุณและแสดงข้อมูลการติดต่อหรือข้อความของคุณ จำกัดการเข้าถึง Samsung Pay และ Samsung Pass และป้องกันไม่ให้โทรศัพท์ของคุณถูกปิด สำหรับ Galaxy Buds หรือ SmartTag ใครก็ตามที่เจออุปกรณ์สามารถแตะอุปกรณ์ Galaxy ที่เปิดใช้งาน NFC เพื่อดูข้อความที่คุณตั้งไว้เมื่ออุปกรณ์สูญหายได้ หากมีคนพยายามจับคู่ Galaxy Buds พวกเขาจะได้รับแจ้งว่าอุปกรณ์นั้นเป็นอุปกรณ์ที่สูญหายและไม่สามารถลงทะเบียนกับ Samsung Account ได้3

แจ้งให้ฉันทราบเมื่อพบอุปกรณ์

รับการแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบอุปกรณ์ของคุณ แม้ว่าจะออฟไลน์อยู่ก็ตาม เครือข่าย Galaxy Find ช่วยคุณค้นหาอุปกรณ์ที่สูญหายได้โดยใช้อุปกรณ์ Galaxy ที่อยู่ใกล้เคียง ความเป็นส่วนตัวของคุณจะได้รับการปกป้องโดยที่อุปกรณ์ของคุณยังคงไม่ระบุชื่อและเข้ารหัสอยู่4,5,6

ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่

ยืดอายุแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ที่หายไปเพื่อป้องกันไม่ให้โทรศัพท์ดับ เพื่อเพิ่มโอกาสในการค้นหาโทรศัพท์เจอ4

ลบข้อมูลทิ้ง

คุณสามารถลบข้อมูลทั้งหมดของคุณจากอุปกรณ์ที่หายไปจากระยะไกลและรีเซ็ตเป็นการตั้งค่าจากโรงงานเพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณรั่วไหลหรือถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด4

เชื่อมต่อกับคนที่คุณรักอยู่เสมอ

แชร์ตำแหน่งและรับข้อมูลเมื่อคนที่คุณรักมาถึงหรือออกจากสถานที่สำคัญ

ทางด้านซ้ายมีภาพเด็กคนหนึ่งอยู่ และทางด้านขวามีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังมองดูโทรศัพท์อยู่ ที่ตรงกลาง หน้าจอสมาร์ทโฟน Galaxy แสดงตำแหน่งของเด็กในแผนที่ภายในแท็บ People ของ Samsung Find มีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับตำแหน่งของเด็กแสดงอยู่ด้านข้าง เพื่อระบุว่าเด็กออกจากบ้าน มาถึงโรงเรียน ออกจากโรงเรียน และมาถึงบ้านเมื่อใด ทางด้านซ้ายมีภาพเด็กคนหนึ่งอยู่ และทางด้านขวามีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังมองดูโทรศัพท์อยู่ ที่ตรงกลาง หน้าจอสมาร์ทโฟน Galaxy แสดงตำแหน่งของเด็กในแผนที่ภายในแท็บ People ของ Samsung Find มีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับตำแหน่งของเด็กแสดงอยู่ด้านข้าง เพื่อระบุว่าเด็กออกจากบ้าน มาถึงโรงเรียน ออกจากโรงเรียน และมาถึงบ้านเมื่อใด

แชร์ตำแหน่ง


ในแท็บ People คุณสามารถแชร์ตำแหน่งที่ตั้งให้กับเพื่อนและครอบครัว รวมถึงขอตำแหน่งที่ตั้งเพื่อดูว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน ไม่พลาดการติดต่อและคอยจับตาดูคนที่คุณรัก แม้ว่าจะอยู่ห่างกันก็ตาม7

การแจ้งเตือนการมาถึงและการออกจากสถานที่ต่าง ๆ


ได้รับแจ้งเมื่อบุตรหลานหรือคนที่คุณรักมาถึงหรือออกจากสถานที่สำคัญ ๆ เช่น บ้าน โรงเรียน หรือที่ทำงาน โดยพวกเขาจะได้รับแจ้งเมื่อมีการแชร์ตำแหน่งที่ตั้งของพวกเขา ทำให้คุณเชื่อมต่อกันได้โดยที่ไม่เสียความเป็นส่วนตัว8

ควบคุมล่วงหน้า

เตรียมพร้อมสำหรับการทำอุปกรณ์หายที่คุณไม่ได้อยากให้เกิดขึ้นด้วย Samsung Find

แจ้งให้ฉันทราบเมื่อลืมอุปกรณ์ไว้


เปิด 'แจ้งเตือนเมื่อลืมไว้' เพื่อรับการแจ้งเตือนหากคุณลืม SmartTag หรืออุปกรณ์สวมใส่ไว้ อย่าง Galaxy Buds, Watch หรือ Ring ที่เชื่อมต่อไว้กับโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตของคุณ กำหนดเขตปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น พร้อมยังคงได้รับการปกป้องในที่อื่น ๆ

ติดตามสิ่งสําคัญสำหรับคุณด้วย SmartTag


ติด SmartTag และติดตามทุกสิ่งได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นกุญแจ จักรยาน กระเป๋าเดินทาง หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงของคุณก็ตาม ดูประวัติความเคลื่อนไหวได้นานถึงหนึ่งสัปดาห์ในแผนที่ และแชร์ตําแหน่งเพื่อให้ครอบครัวของคุณสามารถช่วยติดตามได้9

ค้นหาอุปกรณ์ได้ แม้จะออฟไลน์อยู่ก็ตาม

เมื่อเปิดใช้งานการค้นหาออฟไลน์ เครือข่าย Galaxy จะช่วยคุณค้นหาตําแหน่งอุปกรณ์ของคุณ แม้ว่าอุปกรณ์จะไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่ายอยู่ก็ตาม5,6,10

วิธีใช้

ไปดูวิธีการต่าง ๆ ในการใช้ Samsung Find ได้อย่างเต็มที่

หากต้องการค้นหาอุปกรณ์ของคุณโดยใช้ Samsung Find แล้ว คุณจะต้องเปิดตัวเลือก 'อนุญาตให้ค้นหาโทรศัพท์เครื่องนี้' ตัวเลือกนี้จะเปิดหลังจากที่ใช้งานแอป Samsung Find ครั้งแรกไปแล้ว และยังมีผลใช้งานกับอุปกรณ์สวมใส่ที่เชื่อมต่อด้วย คุณสามารถเปิดหรือปิดตัวเลือกนี้ด้วยตนเองตามขั้นตอนด้านล่าง

วิธีที่ ①

ตั้งค่าผ่านแอป Samsung Find

ขั้นตอนที่ 01

แตะไอคอนเพิ่มเติม (︙) จากนั้นเลือก 'การตั้งค่า'

ขั้นตอนที่ 02

เลือก 'อนุญาตให้ค้นหาอุปกรณ์'

ขั้นตอนที่ 03

เลือก 'อุปกรณ์นี้' หรือเปิดใช้งาน
'อนุญาตให้ค้นหา' สําหรับอุปกรณ์สวมใส่แต่ละชิ้น

ขั้นตอนที่ 04

เปิดใช้งาน 'อนุญาตให้ค้นหาโทรศัพท์เครื่องนี้'

หากต้องการค้นหาอุปกรณ์ของคุณโดยใช้ Samsung Find แล้ว คุณจะต้องเปิดตัวเลือก 'อนุญาตให้ค้นหาโทรศัพท์เครื่องนี้' ตัวเลือกนี้จะเปิดหลังจากที่ใช้งานแอป Samsung Find ครั้งแรกไปแล้ว และยังมีผลใช้งานกับอุปกรณ์สวมใส่ที่เชื่อมต่อด้วย คุณสามารถเปิดหรือปิดตัวเลือกนี้ด้วยตนเองตามขั้นตอนด้านล่าง

วิธีที่ ②

ตั้งค่าผ่านการตั้งค่าอุปกรณ์

ขั้นตอนที่ 01

ไปยังการตั้งค่า

ขั้นตอนที่ 02

แตะ 'ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว'

ขั้นตอนที่ 03

เลือก 'การปกป้องอุปกรณ์ที่หายไป'

ขั้นตอนที่ 04

เปิดใช้งาน 'อนุญาตให้ค้นเจอโทรศัพท์เครื่องนี้'

เปิดใช้งานการค้นหาออฟไลน์ในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของคุณได้ตามที่คุณต้องการ
การตั้งค่านี้ยังใช้ได้กับอุปกรณ์สวมใส่และ SmartTag ที่เชื่อมต่อด้วย6

วิธีที่ ①

ตั้งค่าผ่านแอป Samsung Find ของอุปกรณ์

ขั้นตอนที่ 01

แตะไอคอนเพิ่มเติม (⋮) และเลือก การตั้งค่า ในแอป Samsung Find

ขั้นตอนที่ 02

เลือก 'อนุญาตให้ค้นหาอุปกรณ์'

ขั้นตอนที่ 03

เลือก 'การค้นหาออฟไลน์'

ขั้นตอนที่ 04

เปิดใช้งาน ‘การค้นหาออฟไลน์’

เปิดใช้งานการค้นหาออฟไลน์ในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของคุณได้ตามที่คุณต้องการ
การตั้งค่านี้ยังใช้ได้กับอุปกรณ์สวมใส่และ SmartTag ที่เชื่อมต่อด้วย6

วิธีที่ ②

ตั้งค่าผ่านการตั้งค่าอุปกรณ์

ขั้นตอนที่ 01

ไปที่การตั้งค่า

ขั้นตอนที่ 02

แตะที่ Samsung Account ตรงด้านบนสุดของเมนู

ขั้นตอนที่ 03

ไปที่ ‘การปกป้องอุปกรณ์สูญหาย’

ขั้นตอนที่ 04

เลือก 'Find My Mobile'

ขั้นตอนที่ 05

เปิดใช้งาน ‘การค้นหาออฟไลน์’

คำถามที่พบบ่อย

ไม่ Samsung Find เป็นแอปที่แตกต่างจาก SmartThings Find ใน Samsung Find คุณสามารถค้นหาและจัดการอุปกรณ์ของคุณโดยใช้แท็บที่ได้รับการออกแบบใหม่สามแท็บ: 'Devices', 'Items' และ 'People' ในแท็บ 'People' คุณสามารถเพิ่มเพื่อนและครอบครัวของคุณและแชร์ตำแหน่งทั้งได้อย่างง่ายดายในที่นี้ที่เดียว

ไม่ได้ ตําแหน่งของคุณจะถูกแชร์เฉพาะเมื่อคุณยอมรับคําขอแชร์ตําแหน่งเท่านั้น หากคุณเลือกที่จะไม่ยินยอม จะไม่มีการแชร์ตำแหน่งของคุณ แม้แต่กับสมาชิกในครอบครัวของคุณ

หากคุณยอมรับคําขอการแชร์ คุณสามารถตั้งค่าระยะเวลาแชร์ได้: 1 ชั่วโมง 1 วัน หรือจนกว่าจะปิดการแชร์ คุณยังสามารถหยุดแชร์ได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนทุกครั้งที่คนที่คุณได้แชร์ตําแหน่งให้นั้นดูตําแหน่งของคุณ

ไม่ได้ เด็กสามารถแชร์ข้อมูลตําแหน่งและอุปกรณ์ของตนได้เฉพาะกับสมาชิกที่ลงทะเบียนในกลุ่มครอบครัวของ Samsung Account

อุปกรณ์ที่ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Samsung Account เดียวกันที่ใช้ในการเข้าสู่ระบบ Samsung Find อาทิ สมาร์ทโฟน Galaxy, แท็บ Galaxy, Galaxy Book ฯลฯ จะปรากฏในแท็บ 'อุปกรณ์' นอกจากนี้ อุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์สวมใส่ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลักผ่าน Bluetooth อย่าง Galaxy Buds, Galaxy Watch, Galaxy Ring และ S Pen ก็จะปรากฏขึ้นด้วยเช่นกัน

หากต้องการค้นหาเครื่องมือติดตามอย่าง SmartTag ด้วย Samsung Find คุณจะต้องลงทะเบียนใน SmartThings ก่อน คุณสามารถทําได้ง่าย ๆ โดยเลือกปุ่ม "เพิ่มรายการอุปกรณ์" ใต้แท็บรายการอุปกรณ์ในแอป Samsung Find

ไม่ได้ Samsung Find สามารถใช้กับบัญชีเด็กได้ แต่เด็กต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองในการใช้ฟีเจอร์การแชร์ตําแหน่ง

ทั้งแอปและเว็บไซต์ของ Samsung Find จะมีฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การค้นหาอุปกรณ์ของคุณเองและอุปกรณ์ของครอบครัว รวมไปถึงการปกป้องอุปกรณ์เหล่านั้นเมื่อสูญหาย อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์บางอย่างอาจมีให้บริการเฉพาะในแอปหรือเว็บไซต์เท่านั้น เว็บไซต์ Samsung Find ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยคุณค้นหาอุปกรณ์ที่สูญหายได้ เมื่อคุณหรือสมาชิกในครอบครัวไม่สามารถเข้าใช้งานแอป Samsung Find ได้ ดังนั้น ฟีเจอร์บางอย่างอาจไม่รองรับในเว็บไซต์


  • ฟีเจอร์ต่อไปนี้มีเฉพาะในแอป Samsung Find เท่านั้น
    -การแชร์ตําแหน่ง ค้นหาในบริเวณใกล้เคียง แจ้งเตือนเมื่อลืมอุปกรณ์ทิ้งไว้ นําทาง ประวัติตําแหน่ง ฯลฯ

  • ฟีเจอร์ต่อไปนี้มีเฉพาะในเว็บไซต์ Samsung Find เท่านั้น
    - ลบข้อมูล ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ติดตามตําแหน่ง ฯลฯ


※ ฟีเจอร์ที่รองรับในแอปหรือเว็บไซต์นั้นอาจเปลี่ยนแปลงได้

 

สมาร์ทโฟน Galaxy

 

แอปและบริการ

  • ภาพจำลองเพื่อสาธิตวิธีการใช้งานเท่านั้น
  • อุปกรณ์ที่รองรับอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ภูมิภาค และผู้ให้บริการแต่ละราย
  • ต้องเปิดอุปกรณ์ของคุณเพื่อลงชื่อเข้าใช้ Samsung Account ของคุณ
  • อุปกรณ์ที่รองรับ: อุปกรณ์ Galaxy (สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต Galaxy ที่ใช้ Android 8 หรือรุ่นใหม่กว่า, Galaxy Watch ที่ใช้ Tizen OS 5.5 หรือรุ่นใหม่กว่า หรือ Wear OS, Galaxy Buds+ หรือรุ่นใหม่กว่า, ซีรีส์ Galaxy SmartTag ทุกประเภท, Galaxy Book, S Pen Pro) และ SmartTag ที่รองรับที่สามารถใช้งานร่วมกับ SmartThings ได้
  • ความสามารถ, สภาพแวดล้อมที่รองรับ และข้อมูลจำเพาะของ Samsung Find อาจแตกต่างกันไปในผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่น
  • สามารถดาวน์โหลดแอป Samsung Find ได้จาก Galaxy Store และ Google Play สําหรับ Galaxy Book คุณสามารถดาวน์โหลดแอป Samsung Find Windows ได้จาก Microsoft Store
  • หากต้องการใช้ Samsung Find คุณต้องเปิด ‘อนุญาตให้ค้นหาโทรศัพท์เครื่องนี้’ ในการตั้งค่าของ Find My Mobile
  1. วิธีการเปิดใช้งานตัวเลือก 'ส่งตําแหน่งล่าสุด'
    ไปที่การตั้งค่า > ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว > การปกป้องอุปกรณ์สูญหาย > Find My Mobile > เปิดใช้งาน ‘ส่งตําแหน่งล่าสุด’ หรือในแอป Samsung Find > การตั้งค่า > อนุญาตให้ค้นหาอุปกรณ์ > อุปกรณ์นี้ > เปิดใช้งาน ‘ส่งตําแหน่งล่าสุด’
  2. การแชร์ตําแหน่งอุปกรณ์ของสมาชิกในครอบครัวมีให้ใช้งานเฉพาะภายในกลุ่มครอบครัวของ Samsung Account เท่านั้น หากต้องการตั้งค่ากลุ่มครอบครัว ให้ไปที่ การตั้งค่าอุปกรณ์ > Samsung Account > ครอบครัว
  3. โหมดสูญหายสําหรับ Galaxy Buds และ Galaxy SmartTags มีให้ใช้งานเฉพาะในรุ่นที่รองรับ NFC เท่านั้น
  4. ฟีเจอร์นี้มีให้ใช้งานในเว็บไซต์ Samsung Find
  5. ปัจจุบัน ฟีเจอร์การค้นหาออฟไลน์รองรับเฉพาะกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต Galaxy ที่ใช้ Android 8 หรือรุ่นใหม่กว่า นอกจากนี้ ยังรองรับกับ Galaxy Watch3 หรือรุ่นใหม่กว่า, Galaxy Buds Pro, Galaxy Buds Live, Galaxy Buds FE, Galaxy Buds2 หรือรุ่นใหม่กว่า, Galaxy S Pen, Galaxy Ring และซีรีส์ Galaxy SmartTag ทุกประเภท อุปกรณ์ที่รองรับจะมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  6. ฟีเจอร์การค้นหาออฟไลน์สามารถใช้ได้เมื่อเปิดใช้งานการตั้งค่า 'การค้นหาออฟไลน์' เท่านั้น โปรดดูที่ 'วิธีการใช้งานการค้นหาออฟไลน์' สําหรับวิธีเปิดใช้งานการตั้งค่า 'การค้นหาออฟไลน์' การตั้งค่าการค้นหาออฟไลน์ในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่เชื่อมต่อด้วยนั้นยังใช้ได้กับ Galaxy Watch, Galaxy Buds, Galaxy Ring, Galaxy S Pen Pro และ SmartTags ที่รองรับฟีเจอร์การค้นหาออฟไลน์
  7. ฟีเจอร์การแชร์ตําแหน่งจะทํางานก็ต่อเมื่อผู้รับตกลงอย่างชัดแจ้งต่อคําขอในการแชร์ตําแหน่ง หากไม่ได้รับความยินยอมดังกล่าว จะไม่มีการแชร์ข้อมูลตําแหน่งไม่ว่าในกรณีใด ๆ นอกจากนี้ คุณสามารถหยุดแชร์ตําแหน่งของคุณได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ในกรณีของบัญชีเด็ก ความพยายามใด ๆ ที่จะแชร์หรือหยุดแชร์ตําแหน่งของบัญชีเด็กหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้อื่นหรือสมาชิกในครอบครัวนั้นจะต้องมีการรับรองความถูกต้องหรือการอนุมัติจากอุปกรณ์ของบิดามารดาหรือผู้ปกครอง
  8. ฟีเจอร์การแจ้งเตือนการเดินทางมาถึงและการเดินทางออกจากจะใช้ได้เฉพาะในกรณีที่อีกฝ่ายได้แชร์ตําแหน่งของพวกเขากับคุณ
  9. หากต้องการใช้ฟีเจอร์การค้นหาตำแหน่งของ SmartTag หรืออุปกรณ์ติดตามอื่น ๆ ที่รองรับแล้ว โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ลงทะเบียนอุปกรณ์เหล่านั้นไว้กับ SmartThings แล้ว นอกจากนี้ คุณยังสามารถลงทะเบียนอุปกรณ์เหล่านั้นกับ SmartThings ได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้แอป Samsung Find
  10. Find Node ไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แม่นยำของอุปกรณ์ที่หายไปได้