เลือกพื้นที่โล่งๆ ภายในบ้าน หรือบริเวณโรงรถ แล้วเตรียมเชือกสำหรับกระโดด เพียงเท่านี้คุณก็พร้อมสำหรับการกระโดดเชือกแล้ว กิจกรรมนี้รับรองว่าร่างกายได้เผาผลาญแคลอรีอย่างเต็มที่ บริหารแขน ขา และการทำงานของหัวใจ โดยการกระโดดเชือก 10 นาทีต่อวัน ติดดต่อกัน 6 สัปดาห์ ส่งผลดีต่อปอดและหัวใจเทียบเท่ากับการวิ่งจ็อกกิ้ง 30 นาทีต่อวัน

ถ้า 10 นาทียังสะใจสายเบิร์นไม่พอ จะกระโดดเต็มๆ 1 ชั่วโมงเราก็สนับสนุน เพราะร่างกายคุณจะเผาผลาญได้มากถึง 500 กิโลแคลอรี

ใครที่ชอบเต้น เปิด YouTube แล้วเปลี่ยนบ้านเป็นฟลอร์แดนซ์กันเลย เพราะการเต้นก็นับเป็นการออกกำลังกายที่เสริมความแข็งแรงของระบบหัวใจ การไหลเวียนของเลือด และการทำงานของปอด รวมถึงช่วยเผาผลาญแคลอรีได้ถ้าใช้เวลาในการเต้นอย่างต่อเนื่อง คุณสามารถเลือกได้เลยว่าจะเต้นสไตล์ไหน จะซุมบ้าหรือว่าลาตินก็สนุกและได้ออกกำลังอย่างเต็มที่

ถ้าคุณเต้นได้ต่อเนื่องถึง 45 นาที ก็บอกลาแคลอรีได้ถึง 500 กิโลแคลอรีทีเดียว

ถ้าอยากออกกำลังกายนอกสถานที่แบบไม่ต้องกังวลเรื่องฝน เราแนะนำกีฬาแบดมินตันที่ให้คุณได้ออกแรงตลอดเกม ใช้ทั้งกล้ามเนื้อแขนและขา ทำให้ร่างกายกระชับได้โดยตรง แบดมินตันอาจจะต่างจากการออกกำลังประเภทอื่นที่เราแนะนำตรงที่คุณต้องหาคู่ตี เราแนะนำว่า ลองบอกเพื่อนว่าแค่ตีแบด 1 ชั่วโมงก็เบิร์นได้ 450 กิโลแคลอรีนะ ก็น่าจะหาคู่ตีได้ไม่ยาก

ต้องบอกว่าเป็นวิธีการออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรเลยจริงๆ เพราะใช้แค่การเดินขึ้น-ลงเท่านั้น การออกกำลังด้วยการเดินขึ้น-ลงบันไดให้คุณได้ใช้กล้ามเนื้อช่วงล่างตั้งแต่สะโพก ต้นขา ไปจนถึงน่อง และยังช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ดีขึ้นด้วย

การเดินขึ้นบันได 1 นาทีเผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 10 กิโลแคลอรี เพราะฉะนั้นถ้าคุณทำได้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมงทุกวัน ก็ได้วันละหลายร้อยกิโลแคลอรีนะ

นอกจากวิธีการออกกำลังกายในร่มที่ว่ามาแล้ว เรายังแนะนำให้คุณใช้สมาร์ทวอทช์อย่าง Galaxy Watch4 Series จาก Samsung ระหว่างออกกำลัง เพราะช่วยให้คุณสามารถวัดข้อมูลร่างกายได้แบบเรียลไทม์ ทำให้คุณมีข้อมูลสำหรับวางแผนเวิร์กเอาต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์ที่เราคิดว่าคุณน่าจะได้ใช้เป็นประจำก็อย่างเช่น การวัดค่าดัชนีมวลกาย หรือ Body Mass Index (BMI) ที่ช่วยให้คุณรู้ว่า BMI ของคุณเข้าข่ายที่ต้องระวังเรื่องสุขภาพหรือเปล่า และยังสามารถเปรียบเทียบค่านี้ว่าลดลงหรือไม่หลังจากออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องไปแล้วสักระยะหนึ่งด้วย

การวัดอัตราความต้องการเผาผลาญของร่างกายในชีวิตประจำวัน หรือ Basal Metabolic Rate (BMR) เป็นค่าที่บอกจำนวนแคลอรีขั้นต่ำที่ต้องการในแต่ละวัน ตัวเลขนี้จะช่วยให้คุณคำนวณปริมาณแคลอรีที่ต้องเบิร์นในการออกกำลังกายได้ หรือถ้าในกรณีที่คุณลดน้ำหนัก BMR จะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้แบบที่รักษาสุขภาพคู่กันไปด้วย

การวัดปริมาณน้ำในร่างกาย การออกกำลังกายทำให้เสียเหงื่อ ซึ่งเท่ากับว่าร่างกายคุณกำลังสูญเสียน้ำมากกว่าเวลาปกติ เพราะฉะนั้นการรู้ปริมาณน้ำในร่างกายจึงช่วยป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำได้

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่คุณได้ใช้แน่ๆ หากออกกำลังกายก็คือ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการเต้นของหัวใจจะเป็นตัวบ่งบอกระดับความแรงในการออกกำลังกายของคุณ คุณสามารถเพิ่มหรือผ่อนแรงได้ขณะเวิร์กเอาต์เพื่อให้เผาผลาญได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ หรือป้องกันการออกกำลังกายที่หักโหมเกินไปได้เช่นกัน

วิธีวัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วยสมาร์ทวอทช์นั้นง่ายสุดๆ เริ่มจากเข้าแอป Samsung Health แล้วปัดหน้าจอลงจนเจอฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ เลือกฟีเจอร์นี้แล้วแตะที่ Measure คุณก็จะรู้อัตราการเต้นของหัวใจ ณ ขณะนั้น ซึ่งตามปกติแล้วถ้าเป็นผู้ใหญ่จะอยู่ระหว่าง 60-100 ครั้งต่อนาที และสูงกว่านั้นเมื่อออกกำลังกาย

ปิดท้ายกันด้วยขั้นตอนในการวัดองค์ประกอบของร่างกายและการอ่านค่าที่เรานำภาพมาฝากกัน แล้วคุณจะเห็นว่า เพียงแค่ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางแตะที่ปุ่มด้านข้างตัวเรือน Galaxy Watch4 Series ก็สามารถประมวลผลข้อมูลและบอกค่าต่างๆ ในร่างกายคุณได้ภายในเวลา 15 วินาที

ส่วนการอ่านค่านั้น นอกจากตัวเลขที่ปรากฏบนหน้าปัดแล้ว ให้ดูที่จุดซึ่งอยู่แถบใต้ตัวเลขด้วย ถ้าจุดอยู่บนแถบสีเขียวอ่อนทางซ้าย แสดงว่าค่าที่วัดได้ต่ำเกินไป แต่ถ้าอยู่บนแถบสีแดงทางขวา แสดงว่าค่านั้นสูงเกินไป

รู้ทั้งวิธีออกกำลังกาย ตัวช่วยในการออกกำลังกายอย่างสมาร์ทวอทช์ ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ วิธีใช้งาน และวิธีอ่านค่าแล้ว ก็มาเริ่มออกกำลังกายสู้ฝนไปด้วยกันเลย!