เราเชื่อว่าฤดูหนาวนี้ หลายคนน่าจะแพลนทริปเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทริปใกล้ๆ อย่างเกาหลี ญี่ปุ่น หรือไปไกลหน่อยอย่างยุโรปหรืออเมริกา

แต่ไม่ว่าจะไปไหน ไอเทมที่ต้องมีติดกระเป๋าเดินทางก็คือเสื้อกันหนาวแบบต่างๆ ซึ่งก่อนที่จะนำไปใช้งาน เราแนะนำให้เอาเสื้อกันหนาวที่เก็บมานานมาดูแลให้พร้อมก่อนออกเดินทางกันดีกว่า ฟังดูเป็นงานใหญ่แต่จริงๆ แล้วไม่วุ่นวายอย่างที่คิด ถ้ามี AirDresser จาก Samsung มาช่วยดูแลเสื้อกันหนาวของคุณให้สะอาด ไร้กลิ่นอับ โดยตั้งค่าแยกตามประเภทต่างๆ เท่านี้คุณก็พร้อมแพ็กเสื้อกันหนาวไปเป็นคอลเล็กชันได้แล้ว

เสื้อกันหนาวขนเป็ดหรือ Down Jackets ให้ความอบอุ่น ใส่สบาย แต่เพราะด้านในบุด้วยขนเป็ดหรือขนห่าน เมื่อใช้ AirDresser จึงต้องตั้งค่าไซเคิลในการดูแลให้เป็นไซเคิล Down Jackets ที่ใช้เวลา 59 นาทีในการจัดการ เพื่อให้เสื้อหนาวที่ถูกพับเก็บอยู่ในตู้เสื้อผ้ามานานของคุณกลับมาพองฟูเหมือนเดิม

นอกจากนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าเสื้อกันหนาวของคุณจะได้รับปริมาณอากาศหมุนเวียนที่เหมาะสม ให้แขวนเสื้อไว้ที่ตรงกลางของ AirDresser ซึ่งการแขวนผ้าด้วยไม้แขวนเสื้อ Air Hangers ของ AirDresser มีข้อดีอีกอย่างคือคืนความสดชื่นให้เสื้อผ้าด้วยระบบ Jet Air พลังลมที่มาจาก Air Hangers จะช่วยส่งพลังลมแรงสูง เป่าฝุ่นละอองฝังลึกในเสื้อผ้าได้อย่างรวดเร็ว ทั้งด้านนอกและด้านใน

เสื้อกันหนาวผ้านุ่มอย่างผ้าขนสัตว์และผ้าแคชเมียร์ มักจะเป็นไอเทมที่ติดกระเป๋าเดินทางเสมอ ไม่ว่าจะเป็นแบบเสื้อโค้ทหรือสเว็ตเตอร์ การดูแลเสื้อผ้าประเภทนี้ เราแนะนำการตั้งค่าไซเคิลของ AirDresser ให้เป็น Winter Coat, Wool/Knit หรือ Suits ใช้เวลา 39 นาที ผ้าก็จะสะอาด เรียบร้อย พร้อมนำไปใช้งาน

เรามีทิปส์เพิ่มเติมอีกนิดสำหรับการใช้ AirDresser เพื่อดูแลผ้าประเภทนี้ โดยแทนที่จะใช้ไม้แขวนเสื้อแขวนเหมือนเสื้อหนาวประเภทอื่น ให้พับแล้ววางบนชั้นวางภายใน AirDresser แทน เพื่อกันผ้ายืดและเสียทรง

มาถึงเสื้อขนเฟอร์และแจ็กเก็ตหนังกันบ้าง ต้องบอกกันก่อนว่า แจ็กแก็ตหนังที่ใช้กับ AirDresser ได้จะต้องเป็นแบบหนังแท้ 100% เท่านั้น ห้ามใช้หนังเทียมกับ AirDresser

ส่วนวิธีการดูแลรักษานั้น ให้เลือกไซเคิล Fur/Leather ซึ่งถูกออกแบบมาให้ดูแลเสื้อประเภทนี้โดยเฉพาะ ตัวเครื่องจะดูดฝุ่นและสิ่งสกปรกที่ติดกับเสื้อผ้าออกไปภายในเวลา 45 นาที ทิปส์เพิ่มเติมอีกนิดคือควรจะทำความสะอาดเสื้อผ้าครั้งละตัวเท่านั้น เพื่อให้เครื่องทำงานได้ประสิทธิภาพสูงสุดและไม่ทำลายเนื้อผ้า นอกจากนี้ ตัว AirDresser ยังมี Deodorizing Filter ขจัดกลิ่นเหม็นจากอาหารหรือเหงื่อได้ถึง 99%

ผ้าชนิดนี้จะหดได้ถ้าทำความสะอาดในน้ำร้อน เพราะฉะนั้นวิธีดูแลจึงค่อนข้างใกล้เคียงกับเสื้อขนสัตว์ชนิดอื่นๆ และผ้าแคชเมียร์ เมื่อใช้กับ AirDresser เราจึงแนะนำให้พับและวางที่ชั้นด้านในแทนที่การแขวน

ผ้าอัลปาก้าสามารถใช้ได้ทั้งกับไซเคิล Winter Coat, Fur/Leather, Suits แต่ถ้าเป็นเสื้อโค้ทแบบยาวที่ผ้าหนา ซึ่งไม่เหมาะกับการใช้กับเครื่องซักผ้าตามปกติ เราแนะนำให้ตั้งค่าไซเคิลเป็น Winter Coat ซึ่งใช้เวลา 54 นาที เพียงเท่านี้ก็แก้ปัญหาการดูแลรักษาเสื้อกันหนาวตัวยาวของคุณได้แล้ว

ย้ำอีกครั้งว่า ก่อนใช้ AirDresser กับเสื้อผ้าแต่ละประเภท ต้องดูให้ถูกต้องว่าคุณเลือกไซเคิลที่ตรงกับประเภทของผ้าหรือไม่ ผ้าที่ใช้ได้ AirDresser จะต้องเป็นผ้าที่ซักได้เท่านั้น ไม่ว่าจะซักมือหรือซักเครื่อง

เตรียมเสื้อกันหนาวพร้อมแล้ว เราขอให้คุณสนุกกับการเดินทางในฤดูหนาวนี้นะ