รู้หรือไม่ว่า ในแต่ละวันปริมาณขยะที่มาจากคนไทยนั้นเฉลี่ยแล้วสูงถึง 1.3 กก./คน/วัน ในขณะที่ค่าไฟต่อบ้านนั้นมีค่าเฉลี่ยสูงถึงกว่า 2,000 บาท/เดือน

เราเลยอยากชวนชาว Members มาจัดการกับขยะและประหยัดพลังงานไปด้วยกันผ่านการใช้ชีวิตประจำวันที่คำนึงถึงเรื่องการจัดการ Eco-Waste ซึ่งทำได้ง่ายกว่าที่คิด รวมถึงยังมีประโยชน์ทั้งต่อโลกและต่อตัวคุณเองด้วย

1. เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน

        ทุกวันนี้ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจำนวนไม่น้อยผ่านการออกแบบให้มีระบบการทำงานที่ประหยัดพลังงาน เพื่อลดภาระของผู้ใช้งานในเรื่องนี้และรักษาสิ่งแวดล้อมไปในเวลาเดียวกัน

เครื่องซักผ้าเป็นตัวอย่างของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสูง แต่หลายรุ่นมาพร้อมกับเทคโนโลยีประหยัดพลังงานโดยเฉพาะ อย่างเช่น เครื่องซักผ้าฝาหน้า WF21T9500GV/ST จาก Samsung ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Eco Bubble™ ที่ทำความสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการเปลี่ยนน้ำยาซักผ้าให้กลายเป็นฟอง เพื่อการขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วขึ้น ทั้งยังเป็นการประหยัดพลังงานและปกป้องสีกับเนื้อผ้าในเวลาเดียวกัน

เครื่องซักผ้าฝาหน้าของ Samsung ยังมีเทคโนโลยี AI Wash ที่มีเซนเซอร์วัดปริมาณและน้ำหนักผ้า ทำให้คำนวณปริมาณน้ำและน้ำยาซักผ้าที่เหมาะสมได้ ลดการใช้น้ำและน้ำยาซักผ้าเกินจำเป็น

นอกจากนี้ การรักษาสีและเนื้อผ้าให้ดูใหม่ได้อย่างยาวนานยังเป็นการช่วยลดพฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าใหม่บ่อยๆ และสร้างขยะที่มาจากเสื้อผ้าไม่ใช้แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจาก Fast Fashion ที่นำไปสู่การสร้างขยะอีกด้วย

2. ลดการใช้พลังงานได้ด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ

        ข้อดีของเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะนอกเหนือไปจากความสะดวกสบายในการใช้งานแล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้ยังช่วยคุณประหยัดพลังงานได้ในทุกๆ วัน จนทำให้การประหยัดพลังงานเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคุณได้โดยไม่ต้องปรับตัว

เราขอยกตัวอย่างเครื่องปรับอากาศ Samsung ที่ใช้เทคโนโลยี WindFree™ Cooling ในการประหยัดพลังงาน เพราะเมื่อเปิดใช้งานโหมด WindFree™ จะช่วยลดการใช้พลังงานได้สูงถึง 77% เมื่อเทียบกับโหมด Fast Cooling ทั่วไป 

และอย่างที่เราบอกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะสามารถตอบโจทย์เรื่องการประหยัดพลังงานได้ การทำความเย็นอัตโนมัติด้วย AI ของเครื่องปรับอากาศ Samsung สามารถปรับโหมดต่างๆ ให้เหมาะสมได้โดยอัตโนมัติด้วยการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมของห้องและรูปแบบการใช้งาน ระบบจะเลือกโหมดที่เหมาะสมเพื่อให้อุณหภูมิเป็นไปตามที่คุณต้องการและรักษาสภาพแวดล้อมให้ดีที่สุด และเมื่อใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน SmartThings คุณยังสามารถควบคุมเครื่องปรับอากาศได้ทุกที่ทุกเวลา

3. จัดการกับขยะให้ตรงกับประเภท

        ขยะอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-Waste ถือเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนไม่รู้ว่าการจัดการขยะประเภทนี้อย่างไม่ถูกต้องจะมีผลกระทบตามมา โดยมีผลทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้คนโดยตรง

          Samsung จึงจับมือกับ AIS จัดการกับปัญหา e-Waste โดยเฉพาะ เพื่อชะลอความรุนแรงของมลพิษทางสิ่งแวดล้อมจากขยะประเภทนี้ที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดย Members สามารถนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่มีไปทิ้งที่กล่องรับขยะที่ตั้งอยู่ในช็อปของ Samsung และของ AIS เพื่อให้ขยะประเภทนี้ถูกนำไปจัดการต่อด้วยวิธีที่ถูกต้อง

          Members สามารถบอกต่อคนรอบตัวเกี่ยวกับจุดรับขยะ e-Waste เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างและให้คนรอบตัวของคุณได้มีส่วนการรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน