ส่องฟีเจอร์หลักๆ ที่คุณไม่ควรพลาดของ Galaxy Tab S9 FE Series, Galaxy Buds FE และ Galaxy SmartTag2

คุณเป็นคนหนึ่งที่ตั้งตารอสัมผัสประสบการณ์การใช้งานของอุปกรณ์ระดับแฟล็กชิปในไลน์ Galaxy จาก Samsung ในราคาที่คุ้มค่าใช่หรือเปล่า ถ้าใช่ คุณจะต้องดีใจที่ได้รู้ว่า ในการเปิดตัว FE ครั้งล่าสุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสุดๆ ในการเข้าถึงประสบการณ์ที่คุณรอคอย ไลน์อัพของสินค้าในกลุ่ม FE ที่เปิดตัวในปีนี้มีทั้ง Galaxy Tab S9 FE และ S9 FE+ รวมถึงหูฟังไร้สาย Galaxy Buds FE ที่เป็นน้องใหม่ในไลน์อัพนี้ นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณรู้พิกัดของอุปกรณ์ในระบบนิเวศ Galaxy FE ของคุณตลอดเวลา อย่าง Galaxy SmartTag2 อีกด้วย!

มาดูกันดีกว่าว่าฟีเจอร์หลักๆ ของอุปกรณ์เหล่านี้มีอะไรบ้าง!

Galaxy Tab S9 FE & S9 FE+: เปิดประสบการณ์ของอิสระในการสร้างสรรค์และเพลิดเพลินกับการเล่นได้ตลอดเวลา

ฟีเจอร์หลักที่คุณจะต้องหลงรักของ Galaxy Tab S9 FE และ S9 FE+ มีอะไรบ้าง

1. หน้าจอขนาด 10.9 นิ้ว และ 12.4 นิ้ว เพื่อประสบการณ์การรับชมที่เต็มอิ่ม

Galaxy Tab S9 FE และ S9 FE+ มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 10.9 และ 12.4 นิ้ว ตามลำดับ นั่นหมายความว่า คุณจะมีหน้าจอปังๆ สำหรับจดโน้ต, เล่นเกม หรือสตรีมเกม ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ ที่มากไปกว่านั้น อุปกรณ์ทั้งหมดยังมีอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุดถึง 90Hz พร้อมมาตรฐานสี DCI-P3 และความสว่างที่เพิ่มขึ้น ให้คุณได้สนุกกับหน้าจอที่มีชีวิตชีวาสมจริง ยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงของคุณ!

Galaxy Tabs ทั้งสองรุ่นนี้มาในสีที่ทันสมัย¹ ให้คุณเลือกแมตช์ได้ตรงกับสไตล์ของคุณ ทั้งยังมีเทคโนโลยี Vision Booster ที่ช่วยให้ภาพบนหน้าจอของคุณสีสันสดใส แม้อยู่ในพื้นที่ที่แสงสว่างจ้าหรือกลางแจ้ง และลดการปล่อยแสงสีฟ้าเพื่อถนอมสายตาของคุณ ให้คุณรับชม ใช้เรียน หรือเล่นได้เต็มที่เท่าที่คุณต้องการ!

2. สนุกกับการใช้งานที่ให้ประสบการณ์เหมือน PC ได้ในทันที

จดไว้เลยสำหรับใครที่เป็นนักเรียนนักศึกษา! เพราะ Galaxy Tab S9 FE & S9 FE+ ให้คุณได้พักจากแล็ปท็อปหนักๆ ด้วยการตั้งค่าให้แท็บเล็ตของคุณทำงานในโหมด DeX เปิดโอกาสให้จดเลคเชอร์ ทำการบ้าน หรือจัดการสิ่งต่างๆ ตามลิสต์รายการที่ต้องทำได้แบบสบายๆ

เพียงแค่ใช้งาน Galaxy Tab S9 FE หรือ S9 FE+ คู่กับ Book Cover Keyboard² ซึ่งมีทั้งปุ่มฟังก์ชันและ Trackpad แล้วเปิดใช้งานโหมด DeX เพียงเท่านี้คุณก็พร้อมสำหรับการใช้งานที่ให้ประสบการณ์ราวกับใช้พีซีอยู่ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือกทางลัดสำหรับแอปต่างๆ ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเชื่อมต่อแบบไร้สายกับอุปกรณ์ Galaxy อื่นๆ ให้คุณแชร์ไฟล์ที่ต้องการระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย!

3. แบตเตอรี่ 8,000mAh และ 10,090mAh ที่พัฒนาประสิทธิภาพขึ้น

มั่นใจได้ว่าคุณจะได้พบกับแบตเตอรี่สุดอึดใน Galaxy Tab S9 FE และ S9 FE+ เพราะทั้งสองรุ่นสามารถใช้งานได้สูงสุด 18 ชั่วโมง และ 20 ชั่วโมง³ ตามลำดับในการชาร์จเพียงครั้งเดียว นั่นหมายความว่า คุณสามารถดูซีรีส์เรื่องโปรดอย่างต่อเนื่องได้หลายตอนกว่าเดิม เล่นเกมได้ยาวนานขึ้น หรือทำงานได้มากกว่าที่เคย

4. ปากกา S Pen ที่มาในกล่อง พร้อมยกระดับการจดโน้ตของคุณ

คุณจะต้องดีใจแน่ๆ ที่รู้ว่า แท็บเล็ตทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมกับปากกา S Pen ภายในกล่อง อุปกรณ์ที่จะช่วยให้คุณสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้มากยิ่งกว่าเดิม และทำให้การจดโน้ตเป็นเรื่องง่าย! ไม่ว่าคุณจะใช้จดโน้ตในห้องเรียนผ่าน Samsung Notes หรือ Goodnotes ปากกา S Pen ให้คุณใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ จะเขียน วาด หรือสเก็ตช์อะไรก็ทำได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังไม่ต้องกังวลด้วยว่าจะทำปากกา S Pen หาย เพราะคุณสามารถติดปากกาไว้กับด้านหลังของ Galaxy Tab S9 FE หรือ S9 FE+ ได้ด้วยแรงแม่เหล็ก

แน่นอนว่า เรื่องที่คุณต้องรู้อีกอย่างก็คือ ทั้งปากกา S Pen และ Galaxy Tab S9 FE กับ S9 FE+ สามารถกันน้ำและกันฝุ่นได้ โดยในแท็บเล็ตเป็นมาตรฐาน IP68⁴ ทำให้ทั้งสองรุ่นนี้เป็นแท็บเล็ต Galaxy S FE รุ่นแรกที่กันน้ำและกันฝุ่นได้!

Galaxy Tab S9 FE/FE+ หรือ Galaxy Tab S9/S9+
รุ่นไหนที่ใช่สำหรับคุณ

ขนาดจอ
ขนาดหน้าจอแสดงผล
หน่วยความจำ
แบตเตอรี่ (mAh, ปกติ)
ชิปประมวลผล
ความทนทาน
ราคา

: Galaxy Tab S9 FE & S9 FE+
ขนาดจอ : 10.9 นิ้ว และ 12.4 นิ้ว
ขนาดหน้าจอแสดงผล : 90Hz LCD
หน่วยความจำ : 128GB
แบตเตอรี่ (mAh, ปกติ) : 8,000 & 10,090
ชิปประมวลผล : Exynos 1380
ความทนทาน : IP68
ราคา : ราคาเริ่มต้น 27,900 บาท

: Galaxy Tab S9 & S9+
ขนาดจอ : 11 นิ้ว และ 12.4 นิ้ว
ขนาดหน้าจอแสดงผล : Dynamic AMOLED 2x
หน่วยความจำ : 128GB
แบตเตอรี่ (mAh, ปกติ) : 8,000 & 10,090
ชิปประมวลผล : Snapdragon® 8 Gen 2
ความทนทาน : IP68
ราคา : ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท

Galaxy Tab S9 FE & S9 FE+

Galaxy Tab S9 series

¹ สีและรุ่นที่วางจำหน่ายอาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศ, ภูมิภาค หรือผู้ให้บริการแต่ละราย
² Book Cover Keyboard มีจำหน่ายแยกต่างหาก
³ อิงตามสภาพแวดล้อมการทดสอบภายในห้องปฏิบัติการของ Samsung ที่ดำเนินการทดสอบด้วยอุปกรณ์รุ่นก่อนวางจำหน่ายที่เชื่อมต่อกับหูฟังผ่าน Bluetooth ด้วยการตั้งค่า LTE แบบพื้นฐาน ประมาณค่าเทียบกับความจุของแบตเตอรี่และวัดแรงดันของการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ระหว่างที่ทำการเล่นวิดีโอ (ไฟล์วิดีโอมีความละเอียด 720p และบันทึกไว้ในอุปกรณ์) ระยะเวลาในการเล่นวิดีโอจริงอาจแตกต่างกันไปตามเครือข่ายที่เชื่อมต่อ การตั้งค่ารูปแบบไฟล์วิดีโอ ความสว่างของหน้าจอ สภาพของแบตเตอรี่ และปัจจัยอื่นๆ อีกมาก
⁴ อิงตามสภาพแวดล้อมการทดสอบใต้น้ำจืดลึกสูงสุด 1.5 เมตร เป็นเวลานานถึง 30 นาที ในห้องปฏิบัติการ ไม่แนะนำให้ใช้ในน้ำทะเลหรือน้ำในสระว่ายน้ำ การกันน้ำและฝุ่นของอุปกรณ์นั้นไม่ใช่คุณสมบัติถาวรและอาจเสื่อมสภาพได้ตามการใช้งาน

Galaxy Buds FE: คุณภาพเสียงที่เหนือกว่า พร้อมระบบ ANC ที่ทรงพลัง และการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์

ฟีเจอร์หลักที่คุณจะต้องหลงรักของ Galaxy Buds FE มีอะไรบ้าง

1. ฟีเจอร์ ANC และ Ambient Sound ประสิทธิภาพสูง

Samsung พร้อมนำประสบการณ์เสียงระดับชั้นนำไปสู่คนรักเสียงเพลงในวงกว้างขึ้นผ่าน Galaxy Buds FE คุณจะได้เพลิดเพลินกับเสียงเพลงที่มีเสียงเบสแน่นๆ และเต็มอิ่ม แคปเจอร์บรรยากาศที่ศิลปินตั้งใจถ่ายทอดผ่านเพลง นอกจากนี้ ต้องขอบคุณฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนอย่าง Active Noise Cancellation (ANC)⁵ และฟีเจอร์ Ambient Sound ให้คุณได้โฟกัสกับสิ่งที่คุณรักโดยไม่ถูกรบกวน! ยิ้มรับเสียงเพลงและบอกลาเสียงรบกวนได้เลย!

2. รับสายได้อย่างคมชัดและชัดเจนผ่าน Galaxy Buds FE ของคุณ

ยกระดับประสบการณ์เสียงในเรื่องส่วนตัวของคุณด้วย Galaxy Buds FE เพราะหูฟังไร้สายคู่นี้มี Personalised Beamforming เทคโนโลยีโฟกัสเสียงปรับได้ตามความต้องการที่จะปรับเสียงโดยอัตโนมัติขึ้นอยู่กับลักษณะการสวมหูฟังของคุณ ให้คุณได้ยินเสียงชัดเจนในทุกการสนทนา

ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน อย่างเช่นอยู่บนรถไฟหรือว่ากำลังชิลๆ อยู่ริมหาด เสียงพูดของคุณจะชัดเจนในระหว่างที่อยู่ในสายสนทนา ต้องขอบคุณ DNN ระบบอัจฉริยะใน Galaxy Buds FE ที่ช่วยวิเคราะห์เสียงภายนอกได้ ให้คุณรู้สึกราวกับมีฟิลเตอร์กันเสียงส่วนตัว มอบเสียงพูดที่คมชัด หมดปัญหาไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานที่ใด

หูฟังไร้สายที่ใส่สบายนี้มาในสีคลาสสิกอย่าง Graphite และ Mystic White ซึ่งหมายความว่า ไม่ว่า OOTD ในแต่ละวันของคุณจะเป็นอย่างไร Galaxy Buds FE ก็เข้ากันได้อย่างลงตัวกับทุกลุค

3. เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างลื่นไหล ให้ความบันเทิงอย่างต่อเนื่อง ไม่โดนรบกวน

ประสบการณ์เสียงที่คุณได้สัมผัสจะตามติดคุณไปในทุกอุปกรณ์อย่างต่อเนื่องเมื่อคุณเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์อื่นใน Samsung Galaxy โดยใช้ฟีเจอร์ Auto Switch⁶ หรือ ⁷ ซึ่งสะดวกในการใช้งาน เพราะแตะเพียงแค่ครั้งเดียวผ่าน Bixby แต่ยังไม่หมดเท่านี้นะ ลองนึกภาพตามว่า คุณกำลังดูซีรีส์เรื่องโปรดอย่างติดพันบนสมาร์ทโฟนของคุณ จากนั้นคุณก็ตัดสินใจเปลี่ยนไปดูบนจอทีวีขนาดใหญ่ผ่านทาง Smart View⁸ ในสถานการณ์แบบนี้ Galaxy Buds FE ให้ประสบการณ์เสียงที่ต่อเนื่องแม้จะมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ มั่นใจได้เลยว่าคุณจะไม่พลาดคำพูดสักคำหรือโมเมนต์ที่น่าตื่นเต้น ความบันเทิงที่รับชมจะยังคงอยู่กับคุณแบบไม่มีสะดุด จากสมาร์ทโฟนมายังโรงหนังส่วนตัวที่บ้าน!

Galaxy Buds FE หรือ Galaxy Buds2 Pro
หูฟังไร้สายรุ่นไหนที่ใช่สำหรับคุณ

Active Noise Cancellation
Ambient Sound
ลำโพง
เซ็นเซอร์
แบตเตอรี่ (mAh, หูฟังไร้สาย)
Auto Switch
ราคา

: Galaxy Buds FE
Active Noise Cancellation : มี
Ambient Sound : มี
ลำโพง : Custom 1-way
เซ็นเซอร์ : Hall Sensor, Proximity Sensor, Touch Sensor
แบตเตอรี่ (mAh, หูฟังไร้สาย) : 60
Auto Switch : มี
ราคา : 3,390 บาท

: Galaxy Buds2 Pro
Active Noise Cancellation : มี
Ambient Sound : มี
ลำโพง : Custom Coaxial 2-way
เซ็นเซอร์ : Accelerometer, Gyro Sensor, Hall Sensor, Proximity Sensor, Touch Sensor, VPU(Voice Pickup Unit)
แบตเตอรี่ (mAh, หูฟังไร้สาย) : 61
Auto Switch : มี
ราคา : 5,941 บาท

Galaxy Buds FE

Galaxy Buds2 Pro

⁵ หากต้องการเปิดใช้งาน Active Noise Cancelling ให้แตะที่หน้าจอค้างไว้ การตั้งค่าฟีเจอร์นี้สามารถทำได้ผ่านแอป Galaxy Wearable (ดาวน์โหลดได้จาก Galaxy Store หรือ Google Play) ใช้ได้เฉพาะกับสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งาน
⁶ หากต้องการใช้งาน Auto Switch อุปกรณ์ Samsung Galaxy ที่คุณตั้งใจจะสลับต้องมีการเชื่อมต่อกับ Galaxy Buds FE
⁷ ปัจจุบัน Auto Switch ยังไม่สามารถใช้งานกับคอมพิวเตอร์ได้
⁸ การเชื่อมต่ออัตโนมัติของ Smart View สามารถใช้งานได้กับทีวีของ Samsung ที่วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา และมีการอัปเดตเฟิร์มแวร์นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2566

Galaxy SmartTag2: ความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น ให้คุณติดตามข้าวของสำคัญได้

เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับรูปแบบใหม่ในการติดตามข้าวของของคุณด้วย Galaxy SmartTag2! อุปกรณ์อัจฉริยะเครื่องนี้จะยกระดับ Galaxy SmartTag ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยฟีเจอร์ที่พัฒนาขึ้น ทำให้ Galaxy SmartTag2 เป็นมากกว่าอุปกรณ์ติดตาม แต่ยังคอยดูแลข้าวของสำคัญทุกอย่างของคุณ!

1. อุปกรณ์ที่ทนทานและกันน้ำได้

อายุของแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้น สามารถใช้งานได้นานถึง 500 วัน⁹ หรือถึง 750 วัน¹⁰ เมื่อใช้งานในโหมดประหยัดพลังงาน คุณสามารถเชื่อมต่อกับของสำคัญได้นานยิ่งขึ้น! อุปกรณ์รุ่นนี้ยังมีมาตรฐาน IP67¹¹ ที่เป็นมาตรฐานในการกันฝุ่นและกันน้ำ ให้คุณสบายใจในการใช้งาน

2. ระบุพิกัดของข้าวของที่หายไปได้ทันที

The Galaxy SmartTag2 is also fitted with features such as Compass View, SmartThings Find¹² and Lost Mode¹³, enabling you to have your device ring to call out to you, or to alert the finder of your items with your contact information so they can reunite you with your lost items. How intuitive!

อะไรคือความแตกต่างระหว่าง Galaxy SmartTag2 และ Galaxy SmartTag

ดีไซน์
มาตรฐาน
แบตเตอรี่
ราคา

: Galaxy SmartTag2
ดีไซน์ : รูปทรงรี
มาตรฐาน : IP67
แบตเตอรี่ : สูงสุดถึง 700 วัน
ราคา : 990 บาท

: Galaxy SmartTag
ดีไซน์ : รูปทรงเพชร
มาตรฐาน : IP53
แบตเตอรี่ : สูงสุดถึง 300 วัน
ราคา : -

Galaxy SmartTag2

SmartTag2 accessories

^{9, 10} อายุในการใช้งานแบตเตอรี่อิงตามสภาพแวดล้อมการทดสอบภายในห้องปฏิบัติการของ Samsung ที่ดำเนินการทดสอบด้วยอุปกรณ์รุ่นก่อนวางจำหน่าย โดยใช้แบตเตอรี่ inbox CR2032 อายุการใช้งานจริงของแบตเตอรี่อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน รุ่นของอุปกรณ์ หรือผู้ผลิตแบตเตอรี่
¹¹ มาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่นใน Galaxy SmartTag2 คือ IP67 อิงตามสภาพแวดล้อมการทดสอบใต้น้ำจืดลึกสูงสุด 1 เมตร เป็นเวลานานถึง 30 นาที ในห้องปฏิบัติการ ไม่แนะนำให้ใช้ในน้ำทะเลหรือน้ำในสระว่ายน้ำ การกันน้ำและฝุ่นของอุปกรณ์นั้นไม่ใช่คุณสมบัติถาวรและอาจเสื่อมสภาพได้ตามการใช้งาน
¹² ในการใช้งาน Galaxy SmartTag2 จะต้องล็อกอินและลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้งาน Samsung ใน SmartThings Find โดย Galaxy SmartTag2 จะต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่มีการเปิดใช้งาน Ultra-wideband (UWB) และจะต้องเป็นระบบปฏิบัติการ Android 11 หรือสูงกว่า เพื่อใช้งานได้อย่างเต็มที่ ความถูกต้องแม่นยำจะลดลงหากมีสิ่งกีดขวางระหว่างคุณและอุปกรณ์ อย่างเช่นในกรณีที่อุปกรณ์อยู่ในลิ้นชัก อยู่หลังกำแพง หรืออยู่ในรถ
¹³ ข้อมูลสำหรับติดต่อและข้อความที่จะแสดงใน Lost Mode จะต้องมีการลงทะเบียนล่วงหน้าในแอป SmartThings