Explore

ตัดใบออกจากหัวกะหล่ำดอก เก็บลำต้นส่วนบาง ๆ และใบเล็ก ๆ เอาไว้ใช้ในภายหลัง ตัดลำต้นส่วนหนา ๆ และที่ไม่สวยทิ้งไป หั่นครึ่งกะหล่ำดอกตามแนวก้าน จากนั้นก็หั่นกะหล่ำดอกแต่ละครึ่งตามขวางโดยให้มีความหนาจากตรงกลาง 1 ซม. เพื่อให้ได้ ‘สเต๊ก’ สองชิ้นที่มีก้านหั่นตามขวางติดอยู่ เด็ดกะหล่ำดอกที่เหลือเป็นชิ้นเล็ก ๆ

เติมถังน้ำในเตาอบให้ถึงระดับสูงสุด ย้ายสเต๊กกะหล่ำดอกไปวางในถาดนึ่งแล้วนำไปใส่ในเตาอบ นึ่งเป็นเวลา 20 นาที จากนั้นให้เติมกะหล่ำดอกชิ้นเล็ก ๆ ลงไปแล้วนึ่งต่ออีก 5 นาทีจนกะหล่ำดอกนิ่ม (ตรวจได้ด้วยการกดมีดลงไปตรงก้าน ถ้าสามารถกดมีดลงไปในเนื้อของก้านได้อย่างง่ายดายแสดงว่าได้ที่แล้ว) เปิดฝาถาดนึ่งแล้วพักกะหล่ำดอกทิ้งไว้

อุ่นเตาอบด้วยการตั้งค่าแบบให้ความร้อนจากด้านบน + พาความร้อน (Top Heat + Convection) ที่อุณหภูมิ 240°C อบพริกหยวกเป็นเวลา 20 นาที (ให้กลับด้านเมื่อใช้เวลาอบไปได้ครึ่งหนึ่งของเวลาการอบทั้งหมด) จนเนื้อพริกหยวกนิ่มและผิวมีสีคล้ำ นำพริกหยวกออกจากเตาอบแล้วพักไว้ให้เย็น วางอัลมอนด์ลงบนถาดอีกใบแล้วอบเป็นเวลา 1-2 นาที ให้เขย่าถาดทุก ๆ 30 วินาทีจนอัลมอนด์กรอบและกลายเป็นสีเหลืองทอง นำอัลมอนด์ออกจากเตาอบใส่ลงบนจานแล้วพักไว้ให้เย็น

ทาน้ำมันสเต๊กกะหล่ำดอกแล้วย้ายสเต๊กไปไว้บนถาดที่ใช้อบอัลมอนด์ เติมกะหล่ำดอกก้านเล็ก ๆ ลงไปแล้วเหยาะน้ำมันเพิ่ม ปรุงรสตามใจชอบ อบเป็นเวลา 20 นาที หลังจากที่ใช้เวลาอบไปได้ครึ่งหนึ่ง ให้เติมใบที่เก็บเอาไว้ลงไป อบต่อจนกะหล่ำดอกกลายเป็นสีเหลืองทองและเกรียมเล็กน้อย

ค่อย ๆ ลอกเปลือกพริกหยวกที่เย็นแล้ว หั่นครึ่ง, คว้านเมล็ดออก, สับ, จากนั้นก็บดให้เป็นเนื้อละเอียดด้วยเครื่องบดอาหารพร้อมกับถั่วอบและส่วนผสมที่เหลือของซอสโรเมสโก ให้เหลือถั่วกับพาร์สลีย์บางส่วนเอาไว้เพื่อใช้ตกแต่งในภายหลังด้วย

ปรุงรสซอสด้วยเกลือ, พริกไทย, น้ำส้มสายชู หรือผงปาปริกา จากนั้นให้ใช้ช้อนตักไปราดไว้บนกะหล่ำดอก ตกแต่งด้วยถั่วและพาร์สลีย์ ซอสที่เหลือนั้นสามารถเก็บไว้ได้นาน 5 วันในตู้เย็น และสามารถใช้ทานคู่กับขนมปังหรือพาสต้าได้